บริษัทตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และมุ่งมั่นในการยกระดับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพโดยครอบคลุม กิจกรรมการดำเนินงานหรือการให้บริการต่างๆ ของบริษัท โดยมีแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม ดังต่อไปนี้
บริษัทส่งเสริมและสร้างจิตสำนึกให้พนักงานทุกคนคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับจัดอบรมพนักงานให้ตระหนักและปลูกฝังให้พนักงาน ทุกคนคำนึงถึงความสำคัญและร่วมมือกันในการอนุรักษ์พลังงานภายในองค์กร ทั้งในด้านการลดการใช้ไฟฟ้า การลดการใช้เครื่องปรับอากาศ การลดการใช้ ลิฟต์โดยสาร การลดการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน และน้ำ มันเชื้อเพลิงต่างๆ ทั้งนี้ บริษัทได้สนับสนุนการทำงานแบบ Work from Home ซึ่งเป็นการ ทำงานในรูปแบบที่มีความยืดหยุ่นและผ่อนคลาย สามารถเลือกมุมการทำงานได้ตามใจชอบ ช่วยให้สามารถโฟกัสกับงานได้เต็มที่และช่วยเพิ่มความคิด สร้างสรรค์ในการทำงานได้มากกว่า โดยเฉพาะกับการทำงานสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ต้องการการคิดค้นนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ดังนั้น การทำงานภายใต้บรรยากาศความตึงเครียด หรือสถานที่ทำงานที่จำกัดภายในบริษัทก็อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานได้ ในส่วนของพนักงานนั้น เป็นการช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงาน เพราะในเวลาปกติแล้วนั้น พนักงานจะต้องคำนวณเวลาและค่าเดินทางไปทำงานในแต่ละเดือน ซึ่งการ Work from Home นี้ก็ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว ทำให้พนักงานมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น อีกทั้งยังไม่ต้องเสียค่าเดินทางจำนวนมากในแต่ละเดือนอีกด้วย
แม้ว่าธุรกิจหลักของบริษัทไม่ได้มีการใช้น้ำในการดำเนินธุรกิจ แต่บริษัทได้ตระหนักและคำนึงในการเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ บริษัทมีแผนบริหารจัดการน้ำ โดยอยู่ระหว่างการกำหนดเป้าหมายการใช้น้ำ และแผนงานต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้สนับสนุนการทำงานแบบ Work from Home และจัดกิจกรรมในการรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันประหยัดการใช้น้ำ รวมถึงติดตามปริมาณการใช้น้ำอย่างต่อเนื่อง
การจัดการขยะและของเสียเป็นเรื่องหนึ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ เนื่องจากขยะนับว่าเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดสภาพ แวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขอนามัย บริษัทได้มีแผนการกำจัดขยะและของเสียภายใต้หลักการ 5R ดังนี้
นอกจากนี้ บริษัทยังรณรงค์ให้บุคลากรในองค์กรให้ความใส่ใจในการแยกขยะอีกด้วย
บริษัทยึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ จึงได้เห็นความสำคัญในการจัดการก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนช่วยลดสภาวะโลกร้อน (Climate Change) ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยพบว่ากิจกรรมของธุรกิจบริษัทที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด คือ การใช้ไฟฟ้าภายในอาคารสำนักงานและการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากยานพาหนะของบุคลากรบริษัท บริษัทจึงมีมาตรการบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าตามแผนการอนุรักษ์การใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง และมีการทำกิจกรรมร่วมกันในการรณรงค์การประหยัดการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทจะยังไม่ได้ดำเนินการการวัดค่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจที่มีการรับรองข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทได้เริ่มดำเนินการศึกษาเรื่องดังกล่าว และอยู่ระหว่างการกำหนดเป้าหมายและแผนงานเพื่อให้มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม รวมถึงการเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการพลังงานและก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น